คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจสงสัยว่าศิลปะบำบัดต่างจากศิลปะเด็กอย่างไร ในเมื่อศิลปะบำบัดก็มีแค่การวาด การปั้น ดนตรี การเคลื่อนไหว ซึ่งก็พบเห็นได้ในชีวิตประจำวันของลูกอยู่แล้วถ้าลูกเรียนศิลปะอยู่จะถือว่าเป็นการบำบัดไปในตัวได้หรือไม่ คำตอบก็คือไม่ได้ค่ะ เพราะศิลปะเด็กและศิลปะเด็กและศิลปะบำบัดมีจุดมุ่งหมายที่แตกต่างกัน โดยครูมอสได้อธิบายถึงความแตกต่างระหว่างศิลปะทั้ง 2 อย่างเอาไว้ดังนี้ ศิลปะบำบัด จะเป็นการใช้ศิลปะกับเด็กที่มีความเจ็บป่วยไม่ว่าจะทางกายหรือทางใจ โดยเน้นไปที่กระบวนการทำงาน ในแต่ละขั้นตอนว่าเด็กที่เข้ารับการบำบัดนั้นมีความสงบนิ่ง มีสมาธิ มีความตั้งใจหรือไม่ มากกว่าจะมานั่งสนใจว่าผลงานจะออกมาสวยหรือไม่สวยครับ ศิลปะบำบัดจะเน้นที่การทำงานของแต่ละคน เพราะจะมีรายละเอียดของการใช้ศิลปะในการบำบัดแตกต่างกัน จึงต้องบำบัดทีละคน หรือกลุ่มเด็กที่มีบุคลิกใกล้เคียงกัน และต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญอย่างนักศิลปะบำบัดในการออกแบบวิธีเพื่อทำงานกับเด็กที่มีความเจ็บป่วยเท่านั้นพ่อแม่หรือครูศิลปะเด็กไม่สามารถทำได้เอง แต่ ศิลปะเด็ก จะเน้นไปที่วัตถุประสงค์มากกว่ากระบวนการทำงาน และไม่มีข้อจำกัดอะไรมากมาย ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็สามารถสอนศิลปะได้ และสามารถสอนคนเดียวหรือสอนเป็นกลุ่มก็ได้ ไม่ว่าเด็กจะป่วยหรือไม่ป่วยก็สามารถใช้ศิลปะเด็กได้ และพ่อแม่สามารถสร้างศิลปะขึ้นในบ้านได้เองด้วยครับ ศิลปะเป็นสิ่งมหัศจรรย์ มีชีวิตอยู่ในตัวเอง เช่น ดนตรี ทำไมเวลาเราร้องเพลง หรือเล่นดนตรีแล้วมีความสุข ทำไมเวลาเราวาดรูปแล้วจึงมีสมาธิ วาดได้นานแบบไม่มีเบื่อ นั่นคือ ความมหัศจรรย์ที่มีอยู่ในศิลปะ การที่เด็กได้ทำศิลปะนั้น จะเป็นการช่วยหล่อหลอมและปรับจิตใจ เพราะศิลปะเป็นเรื่องของความรู้สึก (Feeling) เป็นเรื่องของการพัฒนาจิตใจ ดังนั้น เครื่องมือที่รักษาจิตหรือพัฒนาจิตให้ดีขึ้นก็คือศิลปะ” |
โดย : นวพรรณ
ข้อมูลจาก : www.iqeqdekthai.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น